ในยุคดิจิทัลที่ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต การพิมพ์งานหรือเอกสารต่าง ๆ ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลายครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์รายงานของลูก ๆ การพิมพ์เอกสารสำคัญ หรือแม้แต่การพิมพ์รูปภาพเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก การเลือกซื้อเครื่องพิมพ์สำหรับใช้ในบ้านจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเครื่องพิมพ์ไม่ได้มีเพียงแบบเดียว แต่มีหลายประเภท หลายฟังก์ชัน และหลายราคา เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนซื้อเครื่องพิมพ์มาใช้ในบ้าน
1. ประเภทของเครื่องพิมพ์
เครื่องพิมพ์มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกัน ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือประเภทของเครื่องพิมพ์ที่เหมาะกับการใช้งานในบ้านของคุณ
1.1 เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเป็นประเภทที่นิยมใช้ในบ้านมากที่สุด เพราะมีราคาไม่แพงและสามารถพิมพ์ได้ทั้งเอกสารและรูปภาพคุณภาพสูง โดยเครื่องพิมพ์ประเภทนี้ใช้หมึกเหลวในการพิมพ์ ซึ่งให้สีสันที่สวยงามและคมชัด เหมาะสำหรับการพิมพ์รูปภาพหรือเอกสารที่มีสีสัน
จุดเด่น:
- พิมพ์รูปภาพได้คุณภาพสูง
- ราคาเครื่องไม่แพง
- ขนาดกะทัดรัด
จุดด้อย:
- ต้นทุนหมึกค่อนข้างสูง
- พิมพ์เอกสารได้ช้ากว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์
1.2 เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)
เครื่องพิมพ์เลเซอร์เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก เพราะมีความเร็วในการพิมพ์สูงและต้นทุนต่อแผ่นต่ำกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท โดยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ใช้ผงหมึก (Toner) ในการพิมพ์ ซึ่งให้ความคมชัดและความเร็วในการพิมพ์
จุดเด่น:
- พิมพ์เอกสารได้เร็ว
- ต้นทุนต่อแผ่นต่ำ
- หมึกไม่แห้งง่ายเหมือนเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
จุดด้อย:
- พิมพ์รูปภาพได้ไม่สวยเท่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
- ราคาเครื่องสูงกว่า
1.3 เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน (All-in-One Printer)
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันเป็นเครื่องพิมพ์ที่รวมหลายฟังก์ชันไว้ในเครื่องเดียว เช่น พิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการใช้งานหลากหลายและต้องการประหยัดพื้นที่
จุดเด่น:
- มีฟังก์ชันครบครัน
- ประหยัดพื้นที่
- เหมาะสำหรับการทำงานหลายอย่าง
จุดด้อย:
- ราคาสูงกว่าเครื่องพิมพ์ทั่วไป
- หากฟังก์ชันใดฟังก์ชันหนึ่งเสีย อาจส่งผลต่อการใช้งานทั้งหมด
1.4 เครื่องพิมพ์แบบแทงค์หมึก (Ink Tank Printer)
เครื่องพิมพ์แบบแทงค์หมึกเป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่พัฒนามาเพื่อลดต้นทุนหมึก โดยมีแทงค์หมึกขนาดใหญ่ที่สามารถเติมหมึกได้เอง ทำให้ต้นทุนต่อแผ่นต่ำมาก เหมาะสำหรับบ้านที่พิมพ์งานจำนวนมาก
จุดเด่น:
- ต้นทุนหมึกต่ำ
- พิมพ์ได้จำนวนมาก
- เหมาะสำหรับการพิมพ์รูปภาพ
จุดด้อย:
- ราคาเครื่องสูงกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ททั่วไป
- ขนาดเครื่องใหญ่กว่า
2. ความเร็วและประสิทธิภาพในการพิมพ์
ความเร็วในการพิมพ์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะบ้านที่มีการพิมพ์งานจำนวนมากหรือต้องการพิมพ์งานเร่งด่วน ความเร็วในการพิมพ์มักวัดเป็นจำนวนแผ่นต่อนาที (PPM – Pages Per Minute) ซึ่งเครื่องพิมพ์เลเซอร์มักมีความเร็วสูงกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
นอกจากนี้ ควรพิจารณาประสิทธิภาพในการพิมพ์ด้วย เช่น ความคมชัดของตัวอักษรและภาพ (วัดเป็นจุดต่อนิ้วหรือ DPI – Dots Per Inch) โดยทั่วไปเครื่องพิมพ์ที่มี DPI สูงจะให้ภาพและตัวอักษรที่คมชัดกว่า
3. ต้นทุนหมึกและกระดาษ
ต้นทุนหมึกเป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม เพราะเครื่องพิมพ์บางรุ่นมีราคาถูก แต่หมึกมีราคาแพงและหมดเร็ว ทำให้ต้นทุนต่อแผ่นสูง ดังนั้นควรพิจารณาต้นทุนหมึกและความจุของตลับหมึกด้วย
นอกจากนี้ ควรพิจารณาประเภทของกระดาษที่เครื่องพิมพ์รองรับ เช่น กระดาษทั่วไป กระดาษ photo หรือกระดาษขนาดพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ
4. การเชื่อมต่อและความเข้ากันได้
ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต การเชื่อมต่อของเครื่องพิมพ์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ ๆ มักมาพร้อมกับฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Wi-Fi) ที่ช่วยให้สามารถพิมพ์งานจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องเสียบสาย
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าเครื่องพิมพ์เข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้หรือไม่ เช่น Windows, macOS, iOS หรือ Android เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
5. ขนาดและพื้นที่จัดวาง
เครื่องพิมพ์มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กกะทัดรัดไปจนถึงขนาดใหญ่ ดังนั้นควรพิจารณาพื้นที่ในบ้านที่สามารถจัดวางเครื่องพิมพ์ได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่จำกัด
6. ความต้องการในการใช้งาน
ก่อนซื้อเครื่องพิมพ์ ควรถามตัวเองก่อนว่าต้องการใช้งานเครื่องพิมพ์เพื่ออะไร เช่น
- พิมพ์เอกสารเป็นหลัก
- พิมพ์รูปภาพเป็นหลัก
- ต้องการฟังก์ชันการสแกนและถ่ายเอกสาร
- พิมพ์งานจำนวนมากหรือไม่
การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องพิมพ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
7. แบรนด์และบริการหลังการขาย
แบรนด์เครื่องพิมพ์ที่มีชื่อเสียงและมีบริการหลังการขายที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจได้มากขึ้นในเรื่องคุณภาพและการซ่อมบำรุงในอนาคต เช่น HP, Canon, Epson, Brother และ Xerox เป็นต้น
8. รีวิวและคะแนนจากผู้ใช้
ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรอ่านรีวิวและดูคะแนนจากผู้ใช้จริง เพื่อให้ทราบถึงข้อดีและข้อเสียของเครื่องพิมพ์รุ่นนั้น ๆ จากประสบการณ์จริง
สรุป
การเลือกซื้อเครื่องพิมพ์สำหรับใช้ในบ้านไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเครื่องพิมพ์ ความเร็วในการพิมพ์ ต้นทุนหมึก การเชื่อมต่อ และความต้องการในการใช้งาน การเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในระยะยาว